Last updated: 24 ส.ค. 2566 | 307 จำนวนผู้เข้าชม |
ระบบเสียง Surround Sound
คือ ระบบเสียงที่ออกแบบให้ผู้ชมหรือผู้ฟังได้รับความเสมือนจริงและเสียงที่ร่วมสมัยในการรับชมหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม ในระบบ Surround Sound จะมีหลายแชนเนลเสียงที่ทำหน้าที่ในการแจกแจงเสียงในทิศทางต่าง ๆ
เพื่อสร้างความเสมือนจริงในการเสริมสร้างประสบการณ์ทางเสียงของผู้ชมหรือผู้ฟังแล้วก็ต้องมีตัวเลขเหล่านี้เข้ามาเกี่ยวข้องเช่น 2.1, 5.1, 7.1, 7.1.2, 9.1 อื่น ๆ
หมายเลขแรก (เช่น “5” ใน 5.1)
หมายเลขแรก หมายถึงจำนวนของลำโพงหลัก โดยลำโพงหลักในที่นี้คือ ลำโพงด้านหน้า, ด้านซ้าย, ด้านขวา, ตรงกลางและลำโพงเซอร์ราวด์ต่างๆ นั่นเองครับ
หมายเลขที่สอง (เช่น “1” ใน 5.1)
หมายเลขที่สอง หมายถึงจำนวนของซับวูฟเฟอร์ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วค่านี้จะอยู่ที่เลข 1 ซึ่งหมายความว่ามีซับวูฟเฟอร์หนึ่งตัว แม้ว่าระบบเสียงเซอร์ราวด์หรือระบบเสียงรอบทิศทางส่วนใหญ่จะใช้งานได้ดีด้วยซับวูฟเฟอร์เพียงตัวเดียว แต่คุณอาจจะเจอเลข 2 ได้ เนื่องจากบางคนก็ชอบเสียงซับวูฟเฟอร์สองตัวเพราะเป็นความชอบส่วนตัวนั้นเอง
หมายเลขที่สาม (เช่น “2” ใน 7.1.2)
หมายเลขที่สาม หมายถึงจำนวนลำโพงที่อยู่ด้านบน โดยมักจะอยู่บนเพดานของห้องโฮมเธียเตอร์ หรือในบางครั้งจะเป็นลำโพงที่ยิงเสียงขึ้นด้านบน แล้วตกกระทบลงมา เพื่อให้มิติเสียงจากทางด้านบน ซึ่งเราจะพบตัวเลขเช่น 7.1.2, 9.1.2 ตามระบบโฮมเธียเตอร์ครับ
ระบบลำโพงสเตอริโอ 2.0 ถ้าจะพูดให้เห็นภาพเลย คือ ลำโพงที่ตั้งอยู่ด้านซ้ายและด้านขวา โดยระบบสเตอริโอ 2.0 เป็นการตั้งค่าระบบเสียงสเตอริโอพื้นฐานที่ไม่มีเสียงรอบทิศทางหรือเสียงเซอร์ราวด์ โดยทั่วไปจะใช้เพื่อฟังเพลง มีราคาที่ไม่แพงมากนัก ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของระบบโฮมเธียเตอร์ที่ดี ให้เสียงที่ดีกว่าสำหรับการรับชมภาพยนตร์และทีวี ให้คุณภาพเสียงมากกว่าลำโพงขนาดเล็กที่ติดมาพร้อมกับทีวี
ระบบเสียงสเตอริโอ 2.1 จะทำให้โฮมเธียเตอร์ของคุณมีเสียงที่ดีขึ้นเล็กน้อย โดยคุณจะมีลำโพงด้านซ้ายและขวาในแต่ละด้านของทีวี ด้วยการเพิ่มซับวูฟเฟอร์มาหนึ่งตัว คุณจะเพิ่มเสียงเบสและความลึกให้กับระบบเสียงโฮมเธียเตอร์ของคุณ
ระบบเสียงสเตอริโอ 3.1 เป็นระบบเสียงที่มีลำโพงหลักสามตัวกับซับวูฟเฟอร์หนึ่งตัว ลำโพงหลักจะประกอบไปด้วยลำโพงด้านซ้าย ลำโพงกลาง (เซ็นเตอร์) ลำโพงด้านขวา โดยตำแหน่งการวางซับวูฟเฟอร์นั้น ถือว่าสำคัญไม่น้อย การวางซับวูฟเฟอร์ไว้บนพื้นบ้าน หรือพรม ก็ให้เสียงที่แตกต่างกัน ทีมงานแนะนำให้ลองวางไว้ด้านหน้าระหว่างลำโพงซ้าย-ขวา ซึ่งมักจะเป็นจุดที่ให้เสียงที่มีความกลมกล่อม ลงตัวมากที่สุดครับ
การเพิ่มลำโพงกลางหรือลำโพงเซ็นเตอร์นั้นจะช่วยให้บทสนทนาในภาพยนตร์นั้นมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ลำโพงซ้าย-ขวาจะใช้สำหรับเอฟเฟ็กต์ เพลง และเสียงสเตอริโออื่นๆ ระบบ 3.1 จะเน้นที่เสียงด้านหน้าเท่านั้นจะไม่มีลำโพงเสียงเซอร์ราวด์
ระบบเสียงเซอร์ราวด์ 5.1 เป็นระบบเสียงที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายมากที่สุด โดยจุดเด่นหลักของ 5.1 เลยคือ ให้มิติของเสียงที่ครอบคลุม ล้อมรอบผู้ฟัง ได้ดียิ่งกว่า 3.1 แบบคนละเรื่องกันเลย โดยจะมีลำโพงด้านหลัง 2 ใบเพิ่มเติมเข้ามาจากระบบ 3.1 โดยการจัดวางลำโพงด้านหลังที่เหมาะสมที่สุด
**ทีมงานแนะนำว่าให้วางลำโพงด้านหลังหันหน้าเข้าหาลำโพง Center แล้วลองนั่งฟังเสียงที่ได้ และปรับลำโพงมุมตามความชอบส่วนบุคคลได้เลยครับ
อย่างที่บอกไปว่าระบบเสียงเซอร์ราวด์ 5.1 เป็นระบบเสียงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมสื่อแทบจะทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ฟังเพลง, ดูทีวี หรือชมภาพยนต์ ให้มีมิติของเสียงที่ดียิ่งขึ้น ส่วนตัวทีมงานมองว่าสำหรับการรับชมภาพยนตร์ แล้วมีลำโพงที่ให้เสียงจากด้านหลังนี่ช่วยเพิ่มประสบการณ์ชมได้เป็นอย่างมาก ยิ่งถ้าดูหนังผี แล้วมีเสียงจากด้านหลังนี่บอกเลยว่าดีสุดๆ ครับ
ระบบเสียงเซอร์ราวด์ 7.1 นั้นส่วนประกอบจะเหมือนกับระบบ 5.1 โดยจะเป็นการเพิ่มลำโพงด้านหลังอีกสองตัว เป็นที่นิยมใช้ในโฮมเธียเตอร์ ซึ่งในระบบโฮมเธียเตอร์เซอร์ราวด์ 7.1 การเพิ่มลำโพงสองตัวที่ด้านหลังทำให้ได้รับประสบการณ์เสียงที่เต็มอิ่มยิ่งขึ้น มิติของเสียงจะค่อนข้างละเอียดกว่า 5.1 ตำแหน่งลำโพงนั้นควรวางลำโพงด้านหลังสองตัวไว้ที่มุม 135 ถึง 150 องศา จากลำโพงเซ็นเตอร์/ทีวี เพื่อให้ประสบการณ์เสียงรอบทิศทางที่ดีที่สุด
ระบบเสียงเซอร์ราวด์ 7.1.2 หมายถึงการตั้งค่าเสียงเซอร์ราวด์ 7.1 ด้วยการเพิ่มลำโพงเพดานหรือลำโพงด้านบนสองตัว การตั้งค่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นลำโพงติดเพดาน Dolby Atmos อ่านเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ด้านล่าง
เสียงเอฟเฟ็ครอบทิศทาง เสมือนและสมจริง เหมือนเราได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์จริงๆ
ระบบเสียงเซอร์ราวด์นี้เหมาะที่สุดสำหรับเพดานเรียบที่ทำจากปูนปลาสเตอร์ โดยความสูงของเพดานไม่ควรเกิน 14 ฟุต หรือประมาณ 4.2 เมตร มอบประสบการณ์โฮมเธียเตอร์ชั้นยอด สมจริง และดื่มด่ำ สร้างโดมเสียงในโฮมเธียเตอร์ของคุณ ตราบใดที่เครื่องรับ (receiver) ของคุณรองรับ Dolby Atmos คุณก็สามารถทำการกำหนดค่านี้ได้
ระบบเสียงโฮมเธียเตอร์ 7.2 เป็นระบบที่กำลังเป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้นและเครื่องรับ (receiver) จำนวนมากเริ่มรองรับการตั้งค่าแบบ 7.2 แล้ว โดยมีองค์ประกอบทั้งหมดเหมือนกับระบบ 7.1 แต่เพิ่มซับวูฟเฟอร์ขึ้นมาอีกหนึ่งตัว เพื่อให้เครื่องรับที่รองรับระบบนี้ที่มีซับวูฟเฟอร์ 2 ตัว
การตั้งค่า 7.2 เพื่อสร้างความสมดุลของเสียงเบสในโฮมเธียเตอร์ ให้เสียงเบสที่ดังหรือเบาในส่วนต่างๆ ของห้อง เสียงเบสจะกระจายอย่างสม่ำเสมอ คุณจะได้รับประสบการณ์เสียงเบสแบบเดียวกันไม่ว่าคุณจะนั่งที่ใด ในขณะที่บางคนก็พอใจกับซับวูฟเฟอร์เพียงตัวเดียว
**หากคุณเป็นผู้ที่ชื่นชอบในเสียงเบสและต้องการเลือกซับวูฟเฟอร์ให้กับระบบโฮมเธียเตอร์ของคุณ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมในการเลือกซับวูฟเฟอร์ได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้เลยครับ
มีซับเรียกเป็นน้อง มีทองเรียกเป็นพี่ แต่จะให้ดี สำหรับงานฟังเพลง ดูหนัง ยังไงก็ต้องมีซับวูฟเฟอร์
ระบบเสียงโฮมเธียเตอร์ 9.1 เป็นระบบที่มีลำโพงหลักเก้าตัวกับซับวูฟเฟอร์หนึ่งตัว องค์ประกอบนั้นจะเหมือนกับระบบ 7.1 มีลำโพงสูงด้านหน้าสองตัวที่เพิ่มเข้ามาโดยวางเหนือลำโพงหลักด้านซ้ายและขวา เพื่อให้ได้เสียงที่ดีที่สุด ซึ่งควรอยู่เหนือลำโพงหน้าซ้ายและขวาประมาณ 3 ฟุต หรือประมาณ 0.9 เมตร โดยหันหน้าเข้าหาผู้ฟังโดยตรง
นี่คือการตั้งค่าระบบเสียงเซอร์ราวด์แบบโฮมเธียเตอร์ระดับไฮเอนด์ไม่เหมือน 7.1, 5.1 ซึ่งควรใช้ผู้เชี่ยวชาญในการตั้งค่าระบบ เนื่องจากมีส่วนประกอบและข้อมูลจำเพาะมากมายที่ต้องพิจารณา เพื่อตั้งค่าระบบประเภทนี้ให้ออกมาสมบูรณ์แบบ
ระบบเสียงโฮมเธียเตอร์ 9.1.2 เป็นระบบที่มีลำโพงหลักเก้าตัวกับซับวูฟเฟอร์หนึ่งตัว ซึ่งแตกต่างจากระบบ 9.1 เล็กน้อย ส่วนประกอบทั้งหมดประกอบด้วย ลำโพงหลัก ด้านหน้า ซ้ายและขวา ลำโพงเซ็นเตอร์ ซับวูฟเฟอร์, ลำโพงด้านบน ด้านหน้าซ้ายขวา ลำโพงเซอร์ราวด์ซ้ายขวา, ลำโพงหลังซ้ายขวา และเพดานซ้ายขวา สร้างประสบการณ์เสียงโดมระดับไฮเอนด์ที่ชวนดื่มด่ำที่แบบที่ระบบ 7.1.2 มี แต่เพิ่มชั้นเสียงเพิ่มเติมด้วยลำโพงหน้ากว้างด้านซ้ายขวา
แม้ว่าระบบที่ได้กล่าวมาข้างต้นจะเพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการของระบบโฮมเธียเตอร์แล้ว แต่ก็ยังมีตัวเลือกเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่ยังไม่พบระบบโฮมเธียเตอร์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับบุคคลนั้น ไม่ต้องกังวลเพราะยังมีตัวเลือกที่ให้คุณกำหนดค่าของระบบโฮมเธียเตอร์อีก ดังนี้
เป็นอีกระบบที่ได้รับความนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ประกอบด้วยลำโพงด้านหน้าซ้าย ด้านหน้าขวา ด้านหลังซ้าย และด้านหลังขวาพร้อมซับวูฟเฟอร์หนึ่งตัว แต่ที่ต้องแยกออกนั้นก็เพราะว่า ระบบเสียงเซอร์ราวด์ 4.1 นั้นมีไม่ลำโพงเซ็นเตอร์เหมือนระบบอื่นๆ ที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้
เหมือนกับระบบเสียงเซอร์ราวด์ 5.1 แต่มีลำโพงที่เพิ่มเข้ามา โดยตำแหน่งจะอยู่ที่ตรงกลางด้านหลังโฮมเธียเตอร์ของคุณซึ่งจะช่วยเพิ่มมิติใหม่โดยไม่ต้องใช้การจัดวางแบบระบบ 7.1 สร้างประสบการณ์เสียงที่สมจริงยิ่งขึ้น สร้างเสียงที่กว้างเต็มอิ่มยิ่งขึ้นในโฮมเธียเตอร์ของคุณด้วยการเพิ่มลำโพงเพียง 1 ตัว
ซึ่งระบบเสียงเซอร์ราวด์ 6.1 นั้นก็มีอยู่ 2 มุมมองครับ มุมแรกก็คือ ไม่มีความจำเป็นที่ต้องซื้อลำโพงเพิ่มถึง 2 ใบ เพื่อเป็นระบบ 7.1 การซื้อลำโพงเพิ่มอีกใบนั้นไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ 6.1 ก็เพียงพอแล้ว กับอีกมุมนึงคือเป็น 6.1 ไปก่อนแล้วค่อยซื้อเพิ่มให้กลายเป็น 7.1 ในอนาคตได้ ซึ่ง 2 มุมมองนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลไม่มีถูกหรือผิดครับ
ระบบ 10.2 ได้รับการพัฒนาโดยผู้สร้าง THX, Tomlinson Holman สโลแกนสำหรับระบบนี้คือ “ดีเป็นสองเท่าของ 5.1” ซึ่งประกอบด้วยลำโพงหลักด้านหน้าเจ็ดตัวได้แก่ ลำโพงกว้างซ้ายขวา, ลำโพงสูงซ้ายขวา, ลำโพงเซ็นเตอร์ มีลำโพงเซอร์ราวด์สามตัว ได้แก่ ด้านซ้าย ด้านหลัง ด้านขวา พร้อมซับวูฟเฟอร์สองตัว ระบบเสียงเสียงนี้มีวิธีการจัดวางและตั้งค่าไม่เหมือนกันโฮมเธียเตอร์ทั่วไปแต่ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายเพื่อรองรับการตั้งค่าระบบนี้ ซึ่งต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการทำระบบนี้
Dolby Digital Plus รองรับระบบเสียงเซอร์ราวด์สูงสุด 13.1 ซึ่งเป็นระบบที่มีความซับซ้อนและหาได้ยากในโฮมเธียเตอร์ทั่วไป อย่างไรก็ตามนี่อาจไม่ใช่ปัญหาสำหรับผู้ที่ชอบค้นคว้าและเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เพื่อหาความลงตัวแบบที่คุณชอบครับ
21 ก.ค. 2566
24 ก.ค. 2566